ทำงานนอกเหนือวิชาชีพ เหนื่อยหน่อย แต่ก็ท้าทาย และพัฒนาตัวตนของเราได้ด้วย

            แต่ละคนที่สมัครเข้ามาทำงานในหน่วยงานของตนเองล้วนสมัครมาตามวิชาชีพ หรือตำแหน่งที่ชำนาญอยู่แล้ว ดังเช่นตนเอง ที่เข้ามาในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ ด้วยวิทยาศาสตร์บัณฑิตโดยตรงอยู่แล้ว

         ย้อนไปวันสอบสัมภาษณ์ กรรมการก็ถามว่าทำอะไรได้อีก นอกจากงานในห้องแลบที่คุยกันไปแล้ว วันนั้น จำได้ว่าตอบว่า เป็นพิธีกร สันทนาการ ดนตรีบางชนิด แต่กีฬาไม่ค่อยเท่าไหร่ ฯ ตอบไปตามสิ่งที่ตนเองทำมาเป็นประจำในสมัยเป็นนักศึกษา

        จำได้วันนั้น กรรมการสัมภาษณ์ชอบใจการเป็นพิธีกรมากสุด บอกว่ารับเข้ามาเลยเพราะอยากได้พิธีกรใหม่พอดี (ฮา)

           เมื่อเข้ามาทำงาน ก็ได้เป็นพิธีกรตามสัญญาที่กรรมการบอกไว้ ตามมาด้วยการจัดกิจกรรมสันทนาการของค่ายต่างๆ ของคณะด้วย ส่วนทักษะด้านดนตรี ไม่ค่อยได้ใช้ จะมีบ้าง ก็กิจกรรมกีฬาของหน่วยงาน ที่มักต้องเป็นคนตีกลองประกอบเพลงเชียร์ทุกครั้งไป

          ส่วนงานอื่นๆ นั้น เริ่มมาค้นพบเมื่อทำงานมาได้สักห้าหกปี เพราะเริ่มจับงานโครงการ และเริ่มเป็นผู้ประสานหรือเลขานุการงานโครงการเต็มตัว ทั้งงานอบรม และโครงการบริการวิชาการ เช่นโอลิมปิกวิชาการ หรือ โครงการเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรมยางพาราฯ ซึ่งหลายคนที่เคยทำโครงการบริการวิชาการ จะทราบดีว่าเลขาโครงการ บางครั้งก็ต้องทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าโครงการด้วย เพราะบางโครงการหัวหน้าจะประชุม จะวางแผนภาพกว้างเอาไว้ แล้วก็สั่งการ ส่วนการดำเนินงานทั้งหมดมักเป็นงานของเลขาและทีมงาน ซึ่งเราก็ต้องมาวางแผนละเอียดกันต่อ และส่วนใหญ่ก็ต้องเริ่มทำเอง เช่น โทรศัพท์ ส่งแฟกส์ ทำหนังสือ/บันทึกข้อความ ประสานงาน พิธีกร จัดประชุม จัดหาพัสดุ หรือช่วยจัดการเรื่องการเงิน (เรื่องเงินทำเองไม่ได้) ฯ แม้มันจะเป็นเรื่องใหม่ที่เราต้องเรียนรู้ แม้จะเหนื่อยบ้างกับเรื่องเอกสารและเรื่องคนที่มักมีปัญหามากกว่าเรื่องในห้องแลบ แต่เราก็สู้ และยังเชื่อในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ซึ่งตนเองคิดว่า มันจะช่วยเพิ่มความสามารถของเราที่หลากหลายมากขึ้นและคิดว่ามันทำให้เรามีคุณค่ามากขึ้นด้วย

        สิ่งที่กล่าวมา คืองานอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับงานห้องปฏิบัติการ แต่เราก็ชอบงานทั้งสองด้าน ทั้งงานนักวิทยาศาสตร์ที่เราถนัดและงานประสานงานที่เราพอจะทำได้ดี ซึ่งเรื่องงานห้องแลบเราไม่ทิ้งอยู่แล้ว ทั้งเรื่องเครื่องมือและการวิเคราะห์ที่เราอาจไม่ได้มีเครื่องมือมาก แต่เราก็ชำนาญทุกเครื่องที่เรามี เมื่อเครื่องมือมีปัญหา เราจะจัดการมันได้ทุกทีไป จนน้องใหม่ (น้องใบไม้หลากสี) บอกว่าเครื่องมือมันชอบมีปัญหาเมื่อหนูใช้ แต่พอพี่ใยมะพร้าวฯ มาทีไร มันจะเป็นปกติทันที (ยกเว้นเรื่องระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่เราไม่สามารถจริงๆ ต้องเรียกใช้บริการลุงฯ หรือ คุณ iHam ทุกทีไป)

      สรุปเลยแล้วกัน ว่างานใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือภาระงานประจำ และเป็นงานที่ไม่ได้อยู่ในวิชาชีพหรือตำแหน่งของเรา มันอาจจะทำให้เราเหนื่อยหน่อย แต่เราก็จะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เราอาจทำได้ดี และมันจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับเรามากขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ ความเชี่ยวชาญ ชำนาญ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะในตำแหน่งของเราก็คงต้องสร้างให้เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน จนวันหนึ่งเราสามารถกล่าวได้ว่า "หน่วยงานขาดเราไม่ได้" อิอิ ในความเป็นจริงมันคงไม่มีจริงหรอก ที่เมื่อคนๆ หนึ่งออกไปแล้วหน่วยงานจะทำงานต่อไม่ได้ แต่ถ้าเลือกได้ หน่วยงานขอไม่ขาดเราไปดีกว่า

     ในทางกลับกัน อย่าให้เราเป็นคนที่ "หน่วยงานอยากได้คนใหม่ที่ดีกว่าเรา" ติดเพียงแค่หัวหน้าไม่อยากทำร้ายจิตใจของลูกน้องที่ทำงานมานานเท่านั้นเอง

ขอให้สู้ต่อไป เอิ้ก เอิ้ก

"ใจสั่งมา"