คุณค่าของงานต้องคุ้มค่ากับคุณค่าของเงินที่ได้รับ

ผมเองมีความไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก เพราะรู้สึกว่าทำงานได้ไม่ค่อยจะคุ้มเงินเดือนที่ได้รับสักเท่าใด (ฮา แต่หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะขอรับให้มากเท่าเดิมไว้ก่อนนะครับ)

เราสามารถประเมินการทำงานของตนเองได้ครับ ทุกคนรู้ว่าตนเองได้ค่าแรงวันละเท่าใด คงมากกว่า 300 บาท/วัน ที่เป็นค่าแรงขั้นต่ำแน่นอน

ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์นั้นรับพนักงานเพิ่มขึ้นตลอดเวลานะครับ แต่ก็ประเมินตลอดเวลานะครับว่า รายรับที่ได้มานั้นจะได้ดุลกับรายจ่ายที่เพิ่มพนักงานหรือไม่? อัตรากำลังนั้นต้องสมดุลและพอเพียงกับปริมาณงานที่ผลิตออกไป ในปี 2556 ที่ผ่านมานั้น เรามีรายรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ได้หลงระเริงนะครับ เราต้องวิเคราะห์ว่าที่สูงขึ้นมานั้นเพราะเหตุใด ลูกค้าเพิ่มขึ้น ค่าบริการเพิ่มขึ้น รายการให้บริการมากขึ้น ลูกค้ามีความผูกพันมากขึ้น คุณภาพของการให้บริการของเราดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าเราควรจะกำหนดกลยุทธ์ไปในทิศทางใดต่อไป

การลดค่าใช้จ่ายก็เป็นกลยุทธ์สำคัญของเรา การซื้อสินค้าจากต่างประเทศผ่าน e-bay ก็เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับเรา เรายอมเสียภาษีนะครับ คิดดูแล้วก็ยังถูกกว่าซื้อภายในประเทศ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า แม้แต่ souvenir ที่เราจะให้กับลูกค้าในช่วงปีใหม่ยังมาจากต่างประเทศเลย และถูกกว่าราคาในประเทศตั้ง 50% 

งานบริการบางงานที่มีการให้บริการน้อย เราก็คงต้องตัดออกไปบ้าง การสต๊อกสารเคมีที่ไม่ได้ใช้ รอวัน expire ก็ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง เราต้องรู้ตัวเราเองว่าประเทศเราไม่มีความสามารถผลิตสารเคมีเหล่านี้ขึ้นมาเอง ดังนั้นเราต้องใช้อย่างประหยัด และหาทางรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ โดยที่คุณภาพการวิเคราะห์ของเราจะไม่ผิดเพี้ยนไป

ถ้าเรารู้สึกตัวว่างานที่เราได้รับมอบหมายนั้นยังน้อยอยู่ กรุณาหางานอื่นมาทำเพิ่ม เพื่อสร้างคุณค่าของตัวเราเองเถอะครับ งานอื่น อาจเป็นการศึกษา ค้นคว้า วิจัย เพื่อเตรียมความพร้อม/เตรียมศักยภาพของเราให้สูงขึ้น เพื่อที่เราจะได้สร้างงานที่มีคุณค่าในอนาคตต่อไป

ผม..เอง (แมวยังเรียนรู้)