อ่าน: 1636
ความเห็น: 2
ความเห็น: 2
ม.อ.ในยุคสมัยที่เป็นโรงเรียนกวดวิชา
๑๒๓๐๒๔๐๙๒๕๕๒ คุณประสงค์ เพิ่มอารยวงศ์ ศิษย์เก่าดีเด่นของม.อ.ในปีนี้ ได้เชิญคณาจารย์และนักศึกษาวิศวกรรมเคมีส่วนหนึ่งไปทานมื้อเที่ยงกัน และผมก็ได้มีโอกาสระลึกความหลังครั้งเก่าของม.อ.อีกครั้ง
คุณประสงค์เข้าเรียนม.อ.ในรหัส 13… (ก่อนผม 1 ปี) แต่ใช้เวลาเรียนมากกว่า 4 ปี เนื่องจากกรณีนักศึกษาคณะวิศวฯตีหัวอาจารย์อันลือลั่นในอดีต ทำให้มีการสะดุดในการสอนไป 6 สัปดาห์ ผมก็เลยอยากบันทึกให้มีข้อมูลมากขึ้น เพราะดูจากหัวกรณีมันดูเหมือนว่าน.ศ.วิศวฯนั้นร้ายมากเราขอให้คุณประสงค์ช่วยเล่าให้ฟัง เพราะผมเชื่อว่าเรื่องนี้มีสาเหตุที่ลึกๆแฝงอยู่ ก็ได้ความตามนี้นะครับ
ในยุคนั้นอาจารย์ขาดแคลน จะมีใครอยากมาสอนภาคใต้บ้างเล่าครับ เหตุระเบิด เหตุยิงกันมันก็มีอยู่อย่างประปราย คุณแม่ผมยังไม่อยากให้ผมมาทำงานที่นี่เลยวิศวฯม.อ.ก็ขาดแคลนอาจารย์เช่นกัน ก็เลยคิดกลยุทธ์โปรแกรมอาจารย์ควบนักศึกษาขึ้นมา (เก่งนะครับคนคิดโปรแกรมนี้) โดยรับผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีในสาขาวิชาชีพ (เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ)มาเป็นอาจารย์สอนวิชา drawing, machine shop ในขณะเดียวกันก็ให้เรียนเพิ่มในรายวิชาปี 3,4 เพื่อให้มีความรู้ที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อการเรียนต่อในระดับโท-เอกต่อไป
ก็มีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้นบ้าง เพราะความเป็นบุคคล 2 สถานะ คือนักศึกษาม.อ.ก็ไม่ได้เคารพอาจารย์กลุ่มนี้มากนัก เพราะดูเหมือนว่าบางวิชาก็เรียนสู้น.ศ.ม.อ.เองไม่ได้ ด้วยการมีสถานะที่แปลกแยกจากน.ศ.ทั่วไป ทำให้มีการกลั่นแกล้งซึ่งกันและกัน เช่น หนังสือเรียนมีน้อยเล่ม อาจารย์กลุ่มนี้ก็ใช้วิธียืมไปเก็บไว้เฉยๆ เพราะตอนยืมใช้สถานะอาจารย์ ยืมได้ยาวตลอดเทอม แถมยังแข่งกันจีบเสมียน (เขาพูดอย่างนี้จริงๆนาครับ) คนเดียวกัน (ตอนนั้นจบ ปวช.ก็รับเข้ามาทำงานแล้วครับ) ผมก็พยายามที่จะเข้าใจ เพราะอาจารย์กลุ่มนี้ก็มีอำนาจในการตัดเกรดในบางวิชา พอต้องเรียนก็ถูกน.ศ.กลั่นแกล้งเอาคืนกันบ้าง ก็เพราะยังรุ่นๆอยู่ทั้งนั้น เรื่องนี้จบแล้วครับเราก็คุยกันถึงน.ศ.ชายสมัยนั้นก็ผ่อนคลายด้วยการเที่ยวในเชิงอบายมุขบ้าง อาจารย์ก็มีการเที่ยวแบบนี้เหมือนกัน ก็มีการตกลงระหว่างศิษย์กับอาจารย์ว่าใครจะเที่ยววันใดบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะกัน เพราะหากต้องเจอกันในสถานที่อโคจรแบบนี้มันก็อิหลักอิเหลื่อกัน (อาจารย์อาจจะอายมากกว่า) เพราะมันก็มีไม่กี่แห่งซ้ำๆกันอยู่ (อาจารย์กับน.ศ.ก็สนิทกันมากนะครับแบบนี้)
ตอนท้ายก็พูดถึงกรณีที่น.ศ.ม.อ.ออกไปเอนทรานซ์ใหม่จำนวนมาก เพราะส่วนมากมาจากส่วนกลาง ก็ไม่อยากเรียนที่ ม.อ.มากสักเท่าใด คิดว่ามาเรียนที่ม.อ.เพื่อกวดวิชา ให้มีความรู้มากขึ้น แล้วไปเอนทรานซ์ใหม่ ที่เจ็บแสบคือเพื่อนกันเองไม่ยอมบอกว่าเตรียมจะไปเอนทรานซ์ใหม่ เวลาเรียนก็เรียน แต่ตอนสอบก็ไม่ได้อยากดูหนังสือสอบ เที่ยวมาชวนเพื่อนเล่น เที่ยวอยู่อีก เพราะเหงาที่ไม่มีคนเที่ยวด้วย เลยทำให้คนตั้งใจเรียนที่ ม.อ. เรียนตกต่ำไปด้วยเรื่องเหล่านี้ผมลืมไปแล้วครับ เพราะเมื่อก่อนผมก็ไม่เพียงแต่คิดว่าเป็นโรงเรียนกวดวิชาของน.ศ.เพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นที่เพิ่มคุณวุฒิของอาจารย์ด้วย เพราะเป็นมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ มีทุนเรียนปริญญาเอกจำนวนมาก หลายคนพอเรียนจบสูงๆแล้วทำงานชดใช้สัก 2-3 ปี ก็ทำเรื่องขอย้ายที่ทำงาน ก็เป็นเรื่องสมองไหลอย่างต่อเนื่องอยู่หลายปี
พูดถึงเรื่องน้องภา ก็ทราบข้อมูลเพิ่มอีก ว่าจริงๆแล้วมี 3 สาว คนกลางชื่อไพ ก็แต่งงานไปกับนักศึกษาม.อ.เรานี่แหล่ะครับต้องบันทึกกันลืมกันสดๆอย่างนี้แหล่ะครับ
ผม..เอง
สร้าง: 24 กันยายน 2552 19:28
แก้ไข: 24 กันยายน 2552 19:28
[ แจ้งไม่เหมาะสม ]
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « วัยเด็กประถมอีกครั้ง
- ใหม่กว่า » เจตนาฟ้า
25 กันยายน 2552 12:52
#48754