อ่าน: 1730
ความเห็น: 2
ความเห็น: 2
สลับข้าง [C]
ยังจำได้ว่า สมัยเด็กๆ เราเป็นคนที่ใส่รองเท้าผิดเป็นประจำ เอาข้างซ้ายมาใส่ข้างขวาสลับกัน ยังจำความรู้สึกที่ถูกทักว่าใส่รองเท้าผิดได้ รู้สึกว่ามันยากมากที่จะจำให้ได้ว่า ข้างไหนใส่ขวาข้างไหนใส่ซ้าย
ตอนเด็กๆ เราได้ยินแม่ชื่นชมน้องให้ใครๆ ฟังบ่อยๆ ว่าน้องฉลาดมาก ใส่รองเท้าไม่เคยผิด นั้นยิ่งทำให้เรารู้สึกถึงความไม่ฉลาดของตัวเอง เรานึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะมีการพูดพาดพิงถึงน้องยูโร ลูกของน้องในที่ทำงาน ที่สอบคัดไทยได้คะแนนไม่ดี เพราะเขียนหัวกลับทิศระหว่าง เอาหัวออกไม่ม้วนหัวเข้าในตัว ผ ฝ โดยเขียน ผ หัวออก เหมือน ม และ ตัวอื่นๆ ที่เขียนหัวสลับกับ
การใส่รองเท้าผิด และการถูกติงเรื่องใส่รองเท้าผิดทุกวันๆ ทำให้ลามไปถึงการเขียนภาษาไทย คำไหนหัวม้วนเข้า หัวม้วนออก จึงมีปัญหาเหมือนน้องยูโร และลามไปถึงภาษาอังกฤษ ที่จำไม่ได้ว่า b กับ d ตัวไหนหันหน้าเข้า ตัวไหนหันหน้าออก จึงมักเขียนคำว่าสุนัข เป็น bog บ่อยๆ ซึ่งปัญหานี้ติดตัวไปจึงถึงตอนเรียนปวช. ปี 1 ที่เรานึกแทบตายว่า ตัว b หรือ d ที่หันหน้าเข้า
และแน่นอนที่สุด สิ่งที่ยากสำหรับเรา ก็คือ ไหนซ้ายหรือขวา ตอนเช้าเข้าแถวเคารพธงชาติ เมื่อคุณครูสั่งหันซ้ายขวา เป็นปกติที่เรามักจะหันผิดเป็นประจำ เพราะยากที่จะจำว่าไหนซ้ายหรือขวา นึกภาพเด็กนักเรียนเป็นร้อยๆ เข้าแถว แล้วพอคุณครูสั่ง นักเรียนทั้งหมดแถวตรง ขวาหัน คนทุกคนหันหน้าได้ถูกทาง เหลือเรากับใครอีกไม่กี่คน หันหน้าผิดเพื่อน จนใครๆ ก็สังเกตเห็น มันยิ่งตอกย้ำความโง่ ความพ่ายแพ้ให้ตัวเองทุกๆ วัน
จนกระทั่ง พ่อสอนให้เราจำว่า มือซ้ายคือมือที่ใช้ล้างก้น เวลาครูสั่งแถวตรง ให้เริ่มนึกไว้ก่อนว่ามือที่ล้างก้น คือมือซ้าย แล้วกำมือซ้ายไว้ ถ้าคุณครูสั่งซ้ายหันก็หันทางทิศที่มือเรากำไว้ ถ้าขวาหันก็หันทางอีกข้างหนึ่ง และมีการซ้อมสั่งซ้ายหัน ขวาหันที่บ้านกันหลายสิบรอบ จนจำได้
จนโตป่านนี้ ถ้าเผลอเมื่อไหร่ เวลากระชั้นชิดที่ให้บอกทาง เราก็มักจะบอกให้เลี้ยวซ้ายเป็นขวา แต่มือทำท่าเลี้ยวได้ถูกทาง จนคนข้างๆ บ่นว่า ต้องคอยสังเกตมือว่าชี้ไปทางไหน เพราะบอกซ้ายขวาผิดทุกที
เรายังจำความรู้สึกเหมือนมีหมอกปกคลุมรอบตัว นึกยังไงก็นึกไม่ออก พยายามจำยังไงก็ไม่ได้ เหมือนสมองมันทึบ เป็นเรื่องยากมากที่จะจำได้ว่าอะไรหัวเข้าหัวออก อะไรหันหน้าไปทางไหน และยิ่งยากที่จะหารองเท้าแล้วใส่ให้ถูกข้าง ความรู้สึกด้อย ทำให้เราเงอะๆ งะๆ ทำอะไรช้าไม่ทันใจ เพราะต้องคอยดูน้องว่าทำยังไง จะได้ทำตามไม่ผิดพลาด นั้นคงเป็นเหตุผลที่เรารู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ต้องเรียนรู้ให้เยอะ ต้องฟัง ต้องขยัน ต้องพยายาม ต้องพยายาม เพราะเรื่องที่ใครๆ ว่าง่าย เราไม่เคยทำได้เลย
หลังๆ เราเคยเห็นผู้ปกครองบางท่านเอาปากกาป้ายที่รองเท้าให้ลูก เพื่อให้ลูกใส่รองเท้าได้ถูกข้าง เราว่านั่นคงเป็นวิธีที่ดี อย่างน้อยลูกจะได้ใส่รองเท้าได้ถูกข้าง ไม่ถูกใครๆ ทักว่าใส่รองเท้าผิด ใส่รองเท้าผิด ใส่รองเท้าผิด ยิ่งบ้านคนไทยต้องถอดรองเท้าเข้าๆ ออก พอใส่ใหม่ใส่ผิด ก็ถูกทักอีกว่าใส่รองเท้าผิด และก็ตลกขบขัน อาจมีเสียงประกอบของผู้ปกครองว่า “เค้าใส่ผิดเป็นประจำค่ะ” เป็นการตอกย้ำให้ความผิดพลาดนั้นติดตัวเด็กคนนั้นโดยไม่รู้ตัว
created: 24 Febuary 2017 05:38
Modified: 24 Febuary 2017 05:43
[ Report Abuse ]
Other Posts By This Blogger
- Older « เมื่อฉัน.......ใกล้ 50
- Newer » มุมเล็กๆ บนรถสาย A1
ความเห็น
เข้าใจว่าเกี่ยวกับการประมวลภาพของสมอง ลองดูบทความนี้ครับ
ภาพจริงที่ปรากฏในดวงตาเป็นภาพกลับหัวครับ ถ้าใครเกิดทันกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่ในร้านที่ใช้กระจกรับภาพ จะเห็นว่าช่างถ่ายภาพกำลังดูรูปกลับหัวอยู่
สมัยลูกคนแรกยังเล็ก ๆ ดูหนังสือการ์ตูนกลับหัวออกบ่อยครับ
จะเรียกว่าโง่ก็ไม่ถูกครับ เป็นแค่สับสน เพราะกระบวนการแปลภาพของสมองบางคนตัดเอาบางช่วงมาใช้
คุณต้องทำการเข้าระบบก่อนแสดงความเห็น
24 กุมภาพันธ์ 2560 09:17
#105917
อยากกลับไปเป็นเด็กค่ะ การเขียนตัว d ก็บอกลูกว่าให้คิดว่าเราแตะเท้าไปข้างหน้าค่ะ การสอนก็ต้องหาเทคนิคให้จำได้ง่ายค่ะ คริๆ