จัดงานด้วยอาหารฮาลาล

สวัสดีครับ

         บ่อยครั้งที่เราจัดงานหรือโครงการต่างๆ เรามักจะมีอาหารเช้า อาหารว่าง อาหารกลางวัน และอาหารเย็นให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทุกครั้ง ขึ้นอยู่งบประมาณที่จัดสรรหรือรูปแบบกิจกรรม

          สิ่งที่ขาดไม่ได้นั้น คือ อาหารฮาลาล เพราะปัจจุบันผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มักจะเป็นมุสลิมหรือบางทีโครงการที่จัดส่วนใหญ่จะเน้นกลุ่มเป้าหมายมุสลิมเป็นหลัก

          เพราะฉะนั้นอาหารฮาลาลที่หลักๆแล้ว ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย สำหรับการจัดเตรียมไว้ เพื่อป้องกันความรู้สึกไม่สบายใจของผู้เข้าร่วมและอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งในภายหลัง

          ที่สำคัญอย่าอคติกับผู้เข้าร่วมจนนำไปสู่การเลือกปฎิบัติ เช่น ถ้าผู้เข้าร่วมเป็นมุสลิมที่มียศถาบรรดาศักดิ์ มีชื่อเสียงโด่งดัง มีฐานะร่ำรวย แล้วเราดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จัดให้มีอาหารฮาลาลทุกอย่าง แต่พอมีมุสลิมธรรมดาคนหนึ่งมา แล้วเราไม่สนใจใยมี มีก็มี ไม่มีก็ไม่ให้ แบบนี้ก็ไม่ได้เช่นกัน

          เริ่มต้นด้วยอาหารเช้า ถ้าเป็นโรงแรม อาหารส่วนใหญ่จะทานได้อยู่แล้ว เพราะมีใบอนุญาตสถานประกอบการอาหารฮาลาล ถ้าไม่มีเจ้าตัวเองหรือผู้จัดโครงการคงต้องเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์เพราะเสี่ยงไม่ได้เชือดตามหลักการอิสลาม อาหารทอดเพราะอาจจะเสี่ยงอุปกรณ์หรือน้ำมันที่มีส่วนผสมของไขมันสัตว์ และของสด จำพวกไส้กรอก ลูกชิ้น ของแบบนี้ดูยาก เพราะปัจจุบันไส้กรอกแบบอิสลามก็ทำออกมาคล้ายๆกับของทั่วไป เป็นไปได้เลี่ยงเลย ส่วนน้ำชากาแฟก็คงไม่มีอะไรลำบาก

          อย่าคิดว่ายุ่งยาก เป็นภาระ ถ้าทำด้วยใจ อะไรๆก็มีความสุข

          ต่อมาอาหารว่าง มักจะเป็นขนมและเครื่องดื่ม ก็คงจะเน้นไปที่ขนมว่ามีส่วนผสมอะไรบ้างหรือกระบวนการผลิตสะอาดไหม หมายถึงสะอาดตามหลักการอิสลาม แต่เชื่อว่าทั้งคนกินและคนจัดให้กินก็คงไม่ทราบรายละเอียดมากขนาดนั้น แนะนำให้จัดแบบง่ายๆแล้วกัน ที่ไม่เสี่ยงโดนร้องเรียน

          อย่าคิดว่าเรื่องมาก หากเขาเป็นนายเรา เราก็คงทำด้วยใจ แต่ถ้าเขาเป็นลูกน้องเรา เราคงไม่ใส่ใจ พยายามห่างไกลความคิดเหล่านี้

          ส่วนอาหารเที่ยงกับอาหารเย็น ก็คงใช้หลักการเดียวกับอาหารเช้า แต่ช่วงนี้จะมีรายการอาหารพวกไก่ วัว เยอะ อาจต้องเลี่ยงไว้ก่อน อาหารทะเลพอได้ สุดท้ายก็ต้องเน้นไปที่กระบวนการอีก ถ้าสถานที่ประกอบอาหารไม่มีการรับรองฮาลาลไว้ เพราะคนกินจะมองไปที่ห้องครัวเป็นอันดับแรก แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าทันทีเลยก็ตาม

          เขาจะถามว่า ใครทำก่อนเลย ถ้ามุสลิมทำก็โอเค เพราะเขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ทำให้ประเด็นวัตถุดิบและอุปกรณ์หายสงสัยไป

          แต่ถ้าไม่ใช่คนมุสลิมทำอาหาร ประเด็นก็จะตกมาที่วัตถุดิบก่อนเลย นำมาประกอบอาหารผ่านไหม ถ้าผ่านก็จบ แล้วก็จะมองมาที่กระบวนการผลิตเป็นลำดับสุดท้าย แต่ไม่ผ่าน ก็ย่อมเสี่ยงแน่นอน

          อันนี้ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่ข้อมูลกว้างๆยังไม่ลงลึกในรายละเอียดทั้งหมด ถ้ามีโอกาสจะมาลงรายละเอียดอีกครั้ง

          กรณีอาหารฮาลาลนั้น อยากให้มองเหมือนเวลาเรามองคนที่ไม่กินอาหารอื่นใดนอกจากอาหารเจ ไม่กินอาหารใดที่หมอห้าม เป็นต้น เพราะคนเหล่านี้ เขาก็มีขอบเขตเป็นของตัวเอง และเขาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการ ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ในระดับที่เราจัดหาได้ แต่ถ้าเราไม่มีก็ควรแนะนำให้เขาดูแลตัวเองด้วย จนกว่าเราจะแก้ปัญหาได้

          ความสุขบางครั้งไม่ได้อยู่ที่ใดเลย อยู่ที่การเข้าใจ แม้จะไม่มีอะไรให้ แค่รับฟังและเข้าใจ อยู่ที่ไหนก็มีความสุข

ขอบคุณครับ