ความเห็น: 3
อิทธิพลของหัวหน้า...
ดิฉันจดๆ จ้องๆ จะเขียนบันทึกอยู่หลายวันแล้ว ล่าสุดได้ post บันทึก ออกกำลังกาย 3 ชั่วโมงไปตั้งแต่คืนวันศุกร์ นี่ก็ 4 วันแล้วยังไม่คลอดออกมาสักบันทึกเลย...ให้ตายซิทั้งที่เรื่องราวมากมายลำดับเข้ามาในใจอยาก(เขียน) เช้านี้ได้คุยกับสมาชิกวง Share ของเราได้แรงบันดาลใจมากมายในการทำงาน
หลายท่านบอกว่าผลงานวง Share นี้ให้พยายามรักษาไว้เพราะเป็นผลงานของ "คุณเมตตา" โดยแท้ เปล่าเลยเป็นผลงานของกรรมการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยและสมาชิกวง Share โดยแท้ แม้จะรู้สึกหนักหนาสาหัสอย่างไร แม้ไม่อยากทำ ไม่มีเวลา ก็ต้องทำ ต้องมาเขียน เพราะเป็นหนึ่งในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ
เรื่องราวอิทธิพลของหัวหน้าคาใจมาหลายวัน หลายวันมานี้และหลายวันต่อจากนี้ชาวสงขลานครินทร์ ได้แต่ลุ้นระทึกว่าจะได้ใครมาเป็นผู้นำเรากันหน้อ ประเด็นฮิต ติดปาก ติดใจ ถามไถ่กันว่ามีชื่อใครติดโผบ้าง ตั้งแต่มีการเสนอชื่ออธิการบดีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา
"อิทธิพลของหัวหน้า"นั่นเอง
อยากจะรู้ไปเพื่อปรับตัวในการทำงาน
อยากจะรู้เพื่อปรับวิธีทำงาน หรือ
แค่อยากรู้ว่าได้คนที่เราเชียร์อยู่หรือเปล่า
ผ่านมาแล้ว 4 อธิการบดี 7 รองอธิการบดีไม่เคยรู้สึกว่าจะทำงานกับใครไม่ได้ หรือเพราะดิฉันไม่เคยแคร์หัวหน้าเลยกระนั้น/หัวหน้าจะเป็นใครก็ตามฉั้นก็เป็นของฉันอย่างนี้แหล่ะ ไม่มีใครมาไล่ออกได้ แม้หัวหน้าไม่ใช่เจ้าชีวิต แต่เราต่างเป็นบรรยากาศของกันและกันใน 8 ชั่วโมงของการทำงานใน โลกแคบใน สนอ. ใน ม.อ.แห่งนี้
หัวหน้าจะเป็นใครก็ได้ขอให้"ยึดหลักสากล"ในการทำงานไม่ยึดตนเป็นใหญ่
เพราะการงานคือการทำหน้าที่ ไม่ใช่ทำตามใจอยากของเราไปวันๆ วันนี้อยากพรุ่งนี้ไม่อยากไม่มีอารมณ์ คิดกลับไปกลับมา ทำ คิด คนละอย่าง นิสัยนี้ไม่ว่าจะอยู่ในหัวหน้าหรือลูกน้องรับรองว่า"บริหารผลงาน" หรือ "ส่งผลงาน" ต่อกันได้ไม่ดีแน่
หัวหน้าในสายงานบังคับบัญชาอย่างน้อย 1 ระดับที่สูงกว่าเราเสมอไม่ว่าเราจะเป็นใครในองค์กร ยกเว้นเราเป็นเจ้าของกิจการเอง ดิฉันเองมีหัวหน้า ตั้ง 3-4 ระดับ ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรเมื่อต้องเป็นลูกน้องแล้วการปรับมุมมอง ความคิดและวิธีการทำงานเป็นสิ่งที่ต้องทำ โดยยึดหลักการ
เราต่างมีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ ปรับความคิดให้เหมาะสมเคารพยกย่องกันในทุกขณะจิต ทำงานตอบสนองกันเป็นชั้นๆ ไป ดิฉันทำงานสนอง ผอ.กอง ผู้อำนวยการกองบริหารผลงานสนอง รองอธิการบดี รองฯ ก็บริหาร ผอ.กองสนองท่านอธิการบดีอนิสงค์ ผลดีของการทำเช่นนั้น"ต่อกัน"จะส่งผลเกื้อหนุนกันให้เกิดประสิทธิภาพและบรรยากาศในการทำงานที่ดี มีความสุขทั้งกายและใจ ธรรมเนียมปฏิบัติที่งดงาม ต่อกันระหว่างหัวหน้าลูกน้องบ่งบอกบรรยากาศการทำงานของที่นั้นๆ
Dr.karen Otazo ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ที่วิเศษสุดระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ไม่มีอะไรมากไปกว่าทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันรู้เรื่อง สื่อสารกันอยางดีเยี่ยม ความคิดและสไตล์การทำงานเข้ากันได้ สอดประสานไปในทางเกื้อกูลกัน" จากนั้นแล้วผลงานก็จะตามมาเอง
ปล.ไม่ว่านายจะเป็นใคร หน้าที่เราคือต้องปรับตัว ปรับความคิดเพื่อสอดประสานไปในทางเกื้อกูลกัน
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « Share ที่อยากให้เป็น
- ใหม่กว่า » สวัสดีเป้าปุ้นจิ้น
ความเห็น
ที่ผ่านมา เจอทั้งหัวหน้าที่เราประทับใจและถือเป็นแบบอย่าง แต่ก็มีบ้างบางคนที่เรารู้สึกเลยว่า ถ้าหากเรามีโอกาสเป็นหัวหน้างาน เราจะไม่เป็นแบบนี้เด็ดขาดเพราะจะทำให้ลูกน้องที่ตั้งใจทำงานเสียกำลังใจ แต่สุดท้ายก็ต้องเข้มแข็งและทำใจค่ะว่า เราเปลี่ยนวิธีคิดหรือจิตใจคนอื่นไม่ได้ เลยต้องมาปรับที่ใจและความคิดของเราเองให้มีความสุขกับการทำงานค่ะ
แปลก แต่จริง....
ที่ผ่านมา ไม่เคยคิดว่าหัวหน้าไม่ดีเลย...
เพราะก่อนจะหลุดไปคิดตรงนั้นได้..ก็มักจะถูกดักด้วย..."เค้าคงมีเหตุผล และมุมมองของเค้า กระมัง"
ถ้าไม่เก่งอะไรสักอย่าง...เค้าคงไม่ได้มาเป็นหัวหน้าเรา
คิดแบบนี้ก็ทำงานสบายใจ ยอมรับได้เสมอ ๆ
01 กุมภาพันธ์ 2555 00:51
#74450
บันทึกนี้ทำให้คิดถึงประโยคนี้ค่ะ เป็นภาษิตที่ฝรั่งเอามารวบรวมไว้โดยไม่รู้ผู้กล่าว และพี่โอ๋แปลค่ะ