ความเห็น: 0
อยากได้คำว่า teamwork แต่สถานการณ์บังคับให้เป็น do it yourself
ช่วงปี 48-54 เป็นช่วงเวลาเกือบ 7 ปีของการทำงานในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์แบบ Single หรือคนเดียว หรือแบบโสดๆ เพราะยังไม่ได้แต่งงานด้วย 555
ดังนั้น การทำงานทุกอย่าง ทุกด้านแบบ Stand Alone จึงเกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งก็ต้องพยายามใช้ความสามารถที่หลากหลายมากกว่าที่เคยเรียนในตำราวิทยาศาสตร์ ต้องใช้การเรียนรู้และปรับตัวสูงมาก รวมทั้งเปิดใจและสมองเพื่อรับสิ่งใหม่ทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับองค์กร และทำมันให้ดีที่สุด
แต่พอได้เจอ ได้รู้จักกับพี่ๆ ที่ศูนย์เครื่องมือวิทย์ฯ หาดใหญ่ เราก็ได้รู้จักการทำงานแบบ Teamwork ที่แท้จริง ซึ่งมันเจ๋งมาก มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากกว่าการที่มีใครเพียงสักคนเก่งอยู่คนเดียว ถ้าคนๆ นั้นไม่ใช่มาร์ค เซเคิลเบิร์ก หรือ สตีฟ จ๊อบ หรือ ไอสไตน์ แล้วละก็ การเป็นทีมเวิร์คมันมีค่า มีความหมายต่อการทำงานมากจริงๆ
ถ้าจะบอกว่าตนเองมีทีมเวิร์คมั้ย ก็บอกว่ายังพอมี แต่เป็นทีมเวิร์คในสำนักงานเลขานุการที่เราสังกัดอยู่ ซึ่งสมาชิกทั้ง 30 คนใน สนล. ของเรามีความสามัคคีในการทำงาน หรือทำโครงการมาก แต่นั่นก็แค่งานส่วนรวมขององค์กร ยังไม่ใช่งานในห้องแลบที่เราอยู่ทุกวัน
แต่เวลาต่อมา คำขอที่เฝ้ารอมานานก็เป็นจริง ด้วยมีน้องนักวิทย์อีกตำแหน่งเกิดขึ้นมา 1 ตำแหน่ง แต่เราเองถูกระเหิดไปทำงานด้านบริการวิชาการของสำนักงานเลขาฯ คณะครึ่งตัว นานสองปี กว่าจะได้กลับมาทำงานที่ศูนย์เครื่องมือกลางเต็มตัวเหมือนเดิม
ตอนนั้น น้องอาริส หรือ โอเลี้ยง มาเป็น partner ของเราคนแรก น้องโอเลี้ยงเป็นคนเก่ง มีไหวพริบ ทำงานดี เรียนรู้ไว สุดท้ายก็รั้งไว้ไม่อยู่ ไปสอบบรรจุได้พนักงานมหาลัยที่ภาควิชาพรีคลินิก เลยลาออกจากลูกจ้างเงินเดือนน้อยไปที่ดีกว่า ยินดีกับน้องด้วยจริงๆ
ต่อมา ก็ได้น้องมานาล หรือ ใบไม้หลากสี นี่แหละมาเป็นนักวิทย์คนที่สอง คนนี้ก็ดีอีกแบบ เพราะน้องเป็นคนเรียบร้อย มีระเบียบ สามารถช่วยงานด้านเอกสาร และทำตามสั่งได้เกือบทุกอย่างจริงๆ
แต่สุดท้ายน้องก็ลาออกเหมือนกัน หลังจากทำงานไปได้ปีครึ่ง สาเหตุเพราะเธอไปแต่งงานและจะย้ายตามสามีไปอยู่จังหวัดกระบี่ (จริงๆ น้องโอเลี้ยงก็แต่งงานตอนมาทำงานที่ศูนย์ฯ เราเหมือนกัน จนหลายคนบอกว่าเป็นศูนย์ฯ สละโสด)
เมื่อน้องใบไม้หลากสีออกไปเมื่อสิ้นเดือนพ.ย.57 ที่ผ่านมา ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วง Blank ที่ต้องกลับมานั่งทำงานคนเดียว คาดว่าประมาณ 2 เดือน ถึงจะมีคนใหม่มาทำงานร่วมกันกับเราในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้แหละ
วันนี้ การได้กลับมานั่งทำงานคนเดียว ก็ดีไปอีกแบบ กับการได้ทำงานทั้งหมดด้วยตัวเอง ทบทวนขอผิดพลาดของตนเองและหน่วยงาน ได้มีอิสระในการคิด ทำ และบริหารเวลาด้วย
เมื่อมีข้อจำกัดเรื่องกำลังคนและเรื่องเวลาในการทำงาน การทำไคเซ็นจึงเกิดขึ้น แบบทีมเล็กๆ ของเราที่มีกันเพียง 1-2 คน
กับพี่คนเก่าคนเดิม ที่กำลังรอน้องคนใหม่มาเข้าร่วมทีมฝ่าดงระเบิดเดิมๆ ของหน่วยงานเราต่อไป
เอิ้ก เอิ้ก
"ใจสั่งมา"
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ตัวอย่าง Why Why Analysis
- ใหม่กว่า » วิเคราะห์ ข้าราชการดีเด่น 2557 ก...
ร่วมแสดงความเห็นในหน้านี้