ปรับตัวไม่ทันกับผู้รับบริการ

ปัจจุบัน มีความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยี ที่ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ปรับตัวไม่ทันผู้รับบริการ การก้าวไม่ทันคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ เครื่องมือ อุปกรณ์ใหม่ ๆ

อย่างการแพทย์ หากใครผ่าตัดใส้ติ่งมีดผ่าตัดที่ต้องเปิดแผลขนาดใหญ่แบบดั้งเดิม ถึงจะมีฝีมือการผ่าตัดดีอย่างไร คงไม่ใครเข้าใช้บริการ

ดังนั้น จึงเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องปรับวิธีการ และต้องมีการเรียนรู้ ตามให้ทัน

แต่ก็ไม่มากจนบอกว่าทำงานไม่ได้ หากไม่มีเทคโนโลยีแล้วไม่สามารถทำงานได้

การปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยีนั้น อยู่ที่คน

โดยเฉพาะคนรุ่นเก่าที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยใหม่ ๆ จึงตามเทคโนโลยีไม่ทัน ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ช่วยงานให้เร็วขึ้นได้อย่างไร

ถึงแม้จะไปใช้บริการ เช่น การทำบัตรประชาชนที่ไหนก็ได้ การบริการเบิกเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม

ที่สำคัญ หน่วยงานที่ตามไม่ทันคือสถาบันการศึกษาที่ควรมีระบบที่นำหน้า นำสังคม

แต่กลับล้าหลัง ทั้งจัดบริการ การเงิน ข้อมูลข่าวสาร

รวมทั้งการลงทุนด้านอุปกรณ์ด้าน ไอที เรียกว่าล้าหลังกว่าผู้รับบริการ

เช่น นักศึกษาใช้ notebook smartphone facebook

แต่อาจารย์หลายคนไม่มีอุปกรณ์เหล่าของตนเอง

ยังเรียกร้องขอสนับสนุนจากหน่วยงาน

ยังเรียกร้องกระดาษในการทำงานเอกสาร

ยังไม่รับข่าวสารออนไลน์

คืออาการตามผู้ใช้บริการไม่ทัน

แต่คนรุ่นใหม่ก็ใช่ว่าจะทำงานไอทีได้ดี

ส่วนใหญ่ยังใช้เพื่อระบายอารมณ์ ความสนุกสนานบันเทิง จนลืมทำหน้าที่ตน

พอให้ใช้ทำงานกลับทำไม่ได้ดี ทั้งการนำเสนอ การทำรายงาน

ทั้งยังใช้ในทางที่ผิดได้ดี จนใช้ทางที่ถูกไม่เป็น โดยเฉพาะภาษาที่ผิดเพี้ยนจนใช้ภาษาที่ถูกไม่เป็น

ใช้แบบติดปะแต่ไม่ถึงเนื้อหาสาระ

สรุป

คนรุ่นเก่าก็ปรับตัวไม่ทัน

คนรุ่นใหม่ก็ใช้งานไม่ถูก

ที่แย่คือผู้ให้บริการ โดยเฉพาะสถานศึกษา มหาวิทยาลัยไม่สามารถตามทัน นำผู้ใช้บริการ

แล้วจะสอนคนให้ทันสมัยได้อย่างไร