ความเห็น: 0
รถไฟฟ้า:ถึงเวลารึยัง
จากข่าว ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นมุ่งหน้าผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าอย่างถ้วนหน้า เตรียมปิดฉากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หลังจากฝรั่งเศส, อังกฤษ และจีน เตรียมสั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์พลังงานเบนซินและดีเซลอย่างเบ็ดเสร็จในอีก 20 ปีข้างหน้า
อ่านข่าวแล้วรู้สึกว่าจะยังห่างตัวอีกนานนน ... แต่ถ้าอ่านเจาะลึกลงไปจะพบว่า
ซูบารุ วางแผนยุติการผลิตและการจำหน่ายยานยนต์เครื่องยนต์ดีเซลภายในปี 2020
รัฐบาลจีนใช้มาตรการ “โควต้า” ผู้ผลิตรถยนต์ต้องทำสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดได้ 8%ในปี 2018 และเพิ่มเป็น 10% ในปี 2019 และ 12% ในปี 2020
วอลโว่ คาร์ส ประกาศแผนยุติการผลิตรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเพียงอย่างเดียวในปีหน้า
ครับ คราวนี้ไกล้ตัวเข้ามาอีกหน่อย
ถึงเวลารึยัง
เป็นคำตอบที่ตอบได้ยาก แล้วแต่มุมมอง
1. มุมมองผู้ผลิต
อย่างTesla ย่อมบอกว่า ถึงเวลาแล้วจ้า ผลิตไม่ทันขายอยู่แล้ว เพราะผลิตแต่รถไฟฟ้าอย่างเดียว
ถ้าถาม นิสสัน อาจได้คำตอบคล้าย ๆ กัน เพราะมี Leaf อยู่ในมือพร้อมจะขาย
แต่ถ้าถาม โตโยต้า หรือ ฮอนด้า อาจจะได้คำตอบที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากยังมีสต็อกอะไหล่เครื่องยนต์รวมทั้งเครือข่าย OEM อีกเพียบ
2. มุมมองผู้ใช้
2.1 ต้นทุน ปัจจุบัน ถ้ามองกันที่ราคา ยังไม่น่าซื้อนักจากมาตรการภาษีที่ยังไม่สนับสนุนเหมือนต่างประเทศ ราคาจึงยังค่อนข้างสูง เช่น
- ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
- แบตเตอรี่ขับได้ไกล 400 km
รุ่นพื้นฐาน ไม่มีออฟชั่นเสริม 69,500 USD (2,363,000 บาท)
ที่นำเข้าไทยแล้วราคาประมาณ 6 ล้านบาท
2.2 ค่าใช้สอย ส่วนนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดมาก ได้แก่ค่าพลังงาน + ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ที่ใช้นำมันจะมีค่าเชื้อเพลิง 2 บาท/กม. สำหรับรถเก๋งเล็ก จนถึง 4-5 บาท/กม.ในรถตรวจการณ์ ค่าบำรุงรักษาประมาณ 2,000 บาท/10,000 กม.สำหรับรถเก๋งเล็ก จนถึง 3,000-4,000 บาท/10,000 กม.ในรถตรวจการณ์
เปรียบเทียบกับ รถไฟฟ้า Tesla Model S ใช้พลังงาน 0.333 kWh/mile หรือ 0.208 kWh/km คิดเป็น 54 สตางค์/กม. ถ้าชาร์จไฟกลางคืน
ปีหนึ่งใช้รถไปเฉลี่ย 30,000 กม. เอาแค่รถเล็กนะครับ
- รถน้ำมัน 60,000 + 6,000 = 66,000 บาท
- รถไฟฟ้า 16,234 + 1,000 =17,234 บาท ...(1,000 บาทเผื่อ ๆ เอาครับ)
[กระทรวงพลังงาน ก็ได้ประกาศอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับการชาร์จรถไฟฟ้าทันทีเมือนกัน โดยกำหนดให้ กลางวันราคา 6 บาท/หน่วย กลางคืน 2.6 บาท/หน่วย]
สรุป
- จากมุมมองผู้ใช้ ยิ่งใช้รถเยอะและใช้งานในช่วง 100-300 กม./วัน คำตอบคือถึงเวลาแล้วครับ
- แล้วถ้าใช้ 400-1000 กม./วันล่ะ คงต้องคบกับรถไฮบริดล่ะครับ
- รถไฮบริด เป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะถูกข้ามและตัดตอน จากความเจริญของแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ๆ
- ใครจะซื้อรถใหม่ ชะลอไปอีก 3-5 ปีครับ ข้ามไปรถไฟฟ้า ถ้าใครจองรถไฮบริดตอนนี้ก็พลาดแล้วครับ
- ใครรอไหว 8-10 ปี กว่ารถคันเก่าจะผุ ตอนนั้นเทคโนโลยีโตเต็มวัยแล้วครับ
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « เครื่องจักรนิรันดร:มีจริงหรือ
- ใหม่กว่า » รถไฟฟ้า: ส่วนประกอบและการทำงาน
ร่วมแสดงความเห็นในหน้านี้