ความเห็น: 9
มาทำความรู้จักกับ"ช็อกโกแลตซีส"กัน
ช็อกโกแลตซีส หรือ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ (endometriosis)
ช็อกโกแลตเป็นชื่อขนมหวานที่เป็นที่โปรดปรานของผู้คนทุกเพศทุกวัย ซีส(cyst) แปลว่า ถุงน้ำช็อกโกแลตซีส หมายถึงถุงน้ำที่มีของเหลวภายในลักษณะเหมือนช็อกโกแลต คำ 2 คำนี้ มีความหมายแตกต่างและ เป็นคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง ไม่น่าที่จะมาเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกันได้เลย และนับวันผู้หญิงหลายคนก็เริ่มที่จะคุ้นหูกับคำว่า "ช็อกโกแลตซีส"หรือโรคที่ทางการแพทย์เรียกว่า"เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่" (endometriosis) กันมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็ต้องเจอใครสักคนในบรรดาเพื่อนพ้องสาวโสดเป็นโรคฮิตโรคนี้กันเยอะเหลือเกิน
ช็อกโกแลตซีสก็คือถุงน้ำของรังไข่แบบหนึ่ง ซึ่งลักษณะของถุงน้ำชนิดนี้ภายในจะมีของเหลวที่คล้ายกับช็อกโกแลตเหลว ซึ่งความจริงก็คือ ถุงเลือด คือจะมีเลือดอยู่ในถุงนั้น เมื่อเลือดหยุดไหลน้ำก็ถูกดูดซึมกลับทำให้เลือดในถุงเข้มขึ้น และเมื่อเลือดค้างอยู่ในถุงน้ำนานๆ ก็กลายเป็นสีน้ำตาล มีลักษณะเหมือนช็อกโกแลตจึงเรียกเป็นถุงน้ำช็อกโกแลต สาเหตุของการเกิดถุงน้ำช็อกโกแลต ในทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากเลือดระดู หรือเลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ คือแทนที่เลือดนั้นจะออกมาทางช่องคลอดของผู้หญิงตามปกติอาจจะมีเลือดระดูส่วนหนึ่ง มีการไหลย้อนกลับเข้าไปผ่านทางหลอดมดลูก แล้วก็เข้าไปในช่องท้องไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำขึ้นและเนื่องจากลักษณะเซลล์ของถุงน้ำเป็นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกอันหนึ่งเมื่อผู้หญิงมีประจำเดือน(คือการที่เยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวออกมา) ถุงน้ำดังกล่าวก็จะมีเลือดออกในถุงด้วย
ดังนั้นในแต่ละเดือนที่ผ่านไปถุงน้ำก็จะมีเลือดออกเพิ่มขึ้นๆ นั่นหมายถึงถุงน้ำก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และการที่ถุงน้ำนี้จะใหญ่เร็วมากน้อย
แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนคนนั้นว่าจะดูดน้ำกลับได้เร็วเท่าไหร่ ถ้าร่างกายดูดน้ำกลับได้เร็วถุงน้ำนั้นก็จะโตขึ้นแบบช้าๆ
ทำไมถุงน้ำช็อกโกแลตจึงพบมากในผู้หญิงโสด?
คำตอบของข้อสงสัยนี้ก็คือถุงน้ำช็อกโกแลต หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ต้องอาศัยฮอร์โมนของรังไข่ ในการเจริญเติบโตพูดง่ายๆ คือโรคนี้เป็นโรคที่คู่กับการมีประจำเดือนสาเหตุเกิดจากมีประจำเดือนส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับไปผ่านทางหลอดมดลูกแล้วก็เข้าไปในช่องท้องไปฝังตัวในอุ้งเชิงกรานหรือรังไข่เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาโรคนี้อย่างหนึ่งก็คือ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่มีประจำเดือน
"การตั้งครรภ์เป็นช่วงระยะเวลาที่ผู้หญิงไม่มีประจำเดือนอย่างต่ำก็เป็นปีนับตั้งแต่ตั้งท้อง 9 เดือนและหลังคลอดที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่มีประจำเดือนไปอีก 1-3 เดือน หรือบางคนอาจจะถึง 6 เดือนโดยเฉพาะแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ 1 ปีที่ผู้หญิงไม่มีประจำเดือนเลยนั้นเท่ากับ โรคที่เป็นอยู่ได้รับการรักษาไป 1ปี ในขณะที่ผู้หญิงโสดที่ไม่มีลูกก็จะมีประจำเดือนมาเป็นประจำทุกเดือนเพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ใน
แต่ละเดือนก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆและเมื่อเทียบกันระหว่างคนโสดกับคนที่เคยตั้งครรภ์มาก่อนพบว่าผู้หญิงที่เคยตั้งครรภ์แล้วเป็นโรคนี้น้อยกว่าและถึงแม้จะมีโรคก็เป็นกลุ่มที่ไม่แสดงอาการเป็นส่วนใหญ่"
โรคนี้มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง?
ดังที่ทราบกันแล้วว่าโรคนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นโรคที่รุนแรงหรือมีอันตรายอะไร เพียงแต่จะทำให้มีอาการปวดประจำเดือน ดังนั้นหากปวดไม่มากส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีรักษาตามอาการคือกินยาแก้ปวดหรือหากปวดมากแพทย์ก็จะมียาเฉพาะให้และโดยปกติถ้าคนไข้มีอาการไม่มากแพทย์จะไม่ใช้วิธีการผ่าตัดในการรักษาโรคนี้กับคนไข้ "การผ่าตัดจะทำในกรณีที่จำเป็นเฉพาะบุคคลเท่านั้นเช่น ถุงน้ำนั้นใหญ่มากจนทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงหรือถุงน้ำไปกดอวัยวะข้างเคียง เช่น ไปกดกระเพาะปัสสาวะ แล้วทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือ กรณีที่ถุงน้ำแตกซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดท้องแบบเฉียบพลันหรือกรณีของผู้หญิงที่มีลูกยาก จำเป็นต้องผ่าตัดเอาถุงน้ำออกเพราะการที่มีถุงน้ำอยู่จะรบกวนการตั้งครรภ์พอสมควรเพราะมันอาจจะทำให้เกิดพังผืดไปรัดทำให้หลอดมดลูกตีบหรือตันได้"
ผู้หญิงที่ยังโสดหรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก ก็คือ ถ้าเป็นแล้วให้รีบรักษาเสียแต่เนิ่นๆนะคะเพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ
โอกาสที่จะมีลูกก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่พบบ่อยในกรณีของการรักษาผู้ที่มีลูกยาก "ในกรณีของผู้หญิงที่เป็นโรคถุงน้ำช็อกโกแลตหรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ตอนอายุใกล้ๆ 45-46 ปี ส่วนใหญ่แพทย์จะรักษาแบบประคับประคองโดยให้กินยา เพราะโรคนี้เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนมันจะหายไปได้เองแต่ตราบใดที่ผู้หญิงยังมีประจำเดือนอยู่ถึงแม้บางคนจะเคยได้รับการผ่าตัดเอาถุงน้ำฯ ออกไปแล้ว แต่โอกาสที่จะเกิดเป็นซ้ำก็มีนะคะ
" ความไม่รู้มักจะทำให้คนเราวิตกกังวลไปได้มากมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวดังเช่นเรื่องของโรคถุงน้ำช็อกโกแลต หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ ที่ยิ่งนับวันก็จะพบผู้มีอาการของโรคเพิ่มขึ้นแต่การได้รู้ที่มาที่ไป หรือสาเหตุของโรคตลอดจนวิธีการรักษาก็จะช่วยทำให้สบายใจขึ้นได้ส่วนหนึ่งและถ้าหากใครได้อ่านบทความเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบก็จะคลายความวิตกกังวลไปได้ว่าโรคนี้ไม่ได้เป็นอันตรายอย่างที่กลัวๆ กันเลย
ข้อมูลจากผศ.นายแพทย์สมชาย สุวจนกรณ์ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ทำไมเวลาตากฝน แล้วถึงเป็นหวัด
- ใหม่กว่า » ชาย 4 คน
ความเห็น
![]() |
กลัวค่ะ
สงสัยต้องรีบแต่งงานเหมือนกัน
แต่ว่า....ทุกอย่างพร้อมแล้ว
ขาด "ชื่อเจ้าบ่าว" อย่างเดียวค่ะ
ประกาศรับสมัครเลยแล้วกัน...... 555+++
![]() |
![]() |
เราผ่าซีสมาแล้ว ปีกว่า หมอบอกว่าหลังผ่า 3-4 ปีจะขึ้นใหม่ ก็ต้องผ่าอีก!!!! หมอบอกตัดมดลูกถึงจะหายเฮ้อ...กลุ่ม!!!
![]() |
ทำไมดิฉันตัดมดลูกทิ้งแล้วไม่มีประจำเดือนแล้ว ทำไมยังเป็นช็อคโกแลตซีสได้อีกหล่ะค่ะ
![]() |
เคยเป็นเหมือนกันคะ เป็นซีสต์ที่รังไข่คะ ผ่าตัด ฉีดอีนานโทน สมัยนั้น 8000 บาท แต่ไม่ทราบสมัยนี้ราคาเท่าไหร่ หลังจากนั้นฉีดยาคุมคะ ก็ไม่หายขาดคะ เลยหันไปทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคะ สนใจเข้าไปดูได้ที่
www.sunclara889.com หรือโทรมาที่ 085-1570932 คะ
29 ตุลาคม 2550 18:15
#787