ความเห็น: 0
เด็กหานาฬิกา
ชาวนาคนหนึ่ง หลังจากไปทำความสะอาดคอกม้า ออกมาก็พบว่านาฬิกาพกของตน ได้หล่นหายไปเสียแล้ว นาฬิกาพกเรือนนี้มีความหมายต่อเขามาก ด้วยเป็นของขวัญที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้ เขารีบวิ่งไปที่คอกม้ารื้อหาจนทั่วบริเวณแทบพลิกแผ่น ดิน แต่ก็หาไม่พบ
เขาเดินออกมาจากคอกม้าด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว มองไปเห็นมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่แถวนั้น เขาจึงได้คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองแก่แล้ว หูตาฝ้าฟางทำให้หาไม่เจอ แต่เด็กๆหูตายังแหลมคมน่าจะหาเจอก็เป็นได้ เขาจึงเรียกเด็กๆมาแล้วบอกว่า " เด็กๆ ถ้าใครหานาฬิกาพกของลุงเจอ ลุงจะให้เงินคนนั้นหนึ่งเหรียญ "
เด็กๆ พากันวิ่งกรูเข้าไปในคอกม้า จนเวลาผ่านไปนานโข ตอนที่เด็กๆ เดินกลับออกมาจากคอกม้าทีละคนต่างก็มีสีหน้าผิดหวัง ที่หานาฬิกาพกไม่เจอ ขณะที่ชาวนากำลังถอดใจคิดจะเลิกหานั่นเอง ก็มีเด็กคนหนึ่งมากระซิบกระซาบบอกกับเขาว่า "ผมจะลองเข้าไปหาดูอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ขอให้ผมเข้าไปคนเดียวเท่านั้น" ชาวนามองตามหลังเด็กชายไปอย่างไม่มั่นใจ คิดในใจว่า...พวกเราแทบจะพลิกคอกม้าหายังไม่เจอ...แล้วลำพังเด็กคนเดียว จะหาเจอได้อย่างไร...
เด็กคนนั้นเข้าไปตั้งนานก็ยังไม่กลับออกมา ชาวนาเริ่มสิ้นหวังในขณะที่ชาวนาคิดจะเลิกรอและจากไป นั่นเอง เด็กชายคนนั้นก็เดินออกมาจากคอกม้าในมือของเขาถือนาฬ ิกาพกเรือนหนึ่ง ชาวนาถามด้วยความแปลกใจว่า "เจ้าหาเจอได้อย่างไร" เด็กชายบอกว่า "พอ เข้าไปข้างใน ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่นั่งเงียบๆ อยู่ที่พื้นไม่นานผมก็ได้ยินเสียง ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก จากนั้นผมก็เดินตามเสียงไปแล้วผมก็เจอนาฬิกาเรือนนี้ "
ข้อคิดเตือนใจ ขณะที่เรากลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับชีวิตหรือหน้าที่การงาน บางครั้งก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องสงบจิตสงบใจ มาคิดตรึกตรองดูว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น ถูกต้องและเหมาะสมดีแล้วหรือเปล่า และนี่ก็อาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของคำโบราณ ที่ว่า "บนเส้นทางของชีวิต บางครั้งก็ควรตึงเครียด บางครั้งก็ควรผ่อนคลาย"
ที่มา : http://www.thaigaming.com/forward-mail/84197.htm
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ตอบ CAR เลขที่ 011/56
- ใหม่กว่า » ถ้าเป็นนายจะทำอย่างไร
ร่วมแสดงความเห็นในหน้านี้